มาแล้วกับอีกหนึ่งภาคแยกที่บรรดาสาวก #ปรมจ ต่างรอคอย “ปรมาจารย์ลัทธิมาร ภาควิญญาณอาฆาตแห่งชิงเหอ” ในฐานะอีกหนึ่งติ่ง ขอบอกเลยว่า “ใครคิดว่าจะออกจากกูซู จะได้มาหลงอยู่ในชิงเหอแทน”
ด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้น มีเสน่ห์จัดทุกตัวละคร ทำให้ความยาว 50 ตอนก็ไม่อาจเติมเต็มใจผู้ชมได้ บรรดาผู้จัดเลยทำทั้งนำซีรี่ส์ไปตัดต่อใหม่ ทำตอนพิเศษ แถมด้วยภาพยนตร์ภาคแยก ซึ่งตอนนี้มีด้วยกัน 2 ภาค คือภาคลมหายใจขุนพลผี (The living dead) ที่ปล่อยให้รับชมกันไปเมื่อปลายปี 2562 และ ภาควิญญาณอาฆาตแห่งชิงเหอ (Fatal Journey) ที่เพิ่งปล่อยมาสด ๆ ร้อน ๆ ออนไลน์ผ่าน WeTV ให้รับชมถึงบ้านเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา
ปรมาจารย์ลัทธิมาร เป็นซีรี่ส์สร้างจากนวนิยายจีนชื่อดัง ก่อนหน้านี้เคยถูกดัดแปลงเป็น มันฮวา หรือการ์ตูนแบบมังงะฉบับจีน และแอนนิเมชันมาแล้วซึ่งก็ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น ดูหนังออนไลน์ (โดยเฉพาะในบรรดาสาววายทั้งหลาย) สำหรับตัวซีรีส์นี้ผู้สร้างลดทอนความวายออก เหลือเพียงมิตรภาพระหว่างลูกผู้ชายแทน
เนื้อเรื่องเล่าถึงความดีความชั่วผ่าน “เว่ยอู๋เซียน” หรือ ปรมาจารย์อี๋หลิง ผู้สิ้นชีพ ณ เนินป่าช้า เชื่อกันว่ากายแหลกเหลว ไร้ร่างให้ดินกลบฝัง ด้วยพฤติกรรมเลวทรามต่ำช้าเป็นที่โจษจัน ทำให้ผู้คนพากันยินดีที่เขามอดม้วย แต่แล้วกาลเวลาผ่านไปสิบกว่าปี มีใครบางคนใช้อาคมต้องห้าม ยอมอุทิศร่างให้เขาฟื้นคืน ! เพื่อสืบหาผู้บงการและหลีกหนีจากศัตรูที่มีอยู่ทุกหัวระแหง เว่ยอู๋เซี่ยนจำต้องปิดบังตัวตนสุดชีวิต โดยเฉพาะกับตระกูลเซียนที่เคยล้อมปราบ คนที่เคยรู้จัก รวมถึงคู่รักคู่แค้นอย่าง หลานวั่งจี
ในภาคนี้ เนื้อเรื่องจะโฟกัสไปที่สองพี่น้องตระกูลเนี่ย อีกหนึ่งตระกูลเซียนที่มีความเกี่ยวพันกับการฟื้นคืนชีพของเว่ยอู๋เซียน และยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการขจัดเหล่าอธรรม คืนคุณธรรมให้แผ่นดิน (สโลแกนคุ้น ๆ แหะ) ในซีรี่ส์หลักคาแร็กเตอร์ของคนพี่ “เนี่ยหมิงเจวี๋ย” (หวังอี้โจว) คือประมุขตระกูลผู้ดุดัน เกรี้ยวกราด แต่มากฝีมือและเปี่ยมล้นด้วยคุณธรรม ขณะที่คนน้อง “เนี่ยหวายซัง” (จี้หลี) กลับนุ่มนิ่ม ลั้นลา ไม่ประสาวิทยายุทธ ทำให้คนพี่ต้องคอยอบรมดุด่าอยู่บ่อยครั้ง
ทว่าในภาคแยกนี้ จะนำเสนอมุมมองที่ต่างไป ภายใต้บุคลิกดุดันกลับมีความอ่อนโยนแฝงเร้น และภายใต้ความเล่น ๆ ก็มีความจริงจังซ่อนอยู่ ถือเป็นอีกหนึ่งภาคที่พาเราเข้าสู่มิติลึกของสองตัวละคร และหลงเสน่ห์อย่างช่วยไม่ได้ แถมยังทำให้เราเข้าใจถึงความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นของสองพี่น้องได้อย่างลึกซึ้ง เสริมให้เข้าใจการกระทำในภาคหลักอย่างแจ่มชัดขึ้นไปอีก (และแน่นอนว่าทำให้สองนักแสดงหลักดูเท่ น่ากรี๊ดไปอีกขั้น คาดว่าจะมีแฟนคลับนอกจอเพิ่มขึ้นอีกตรึม)
สำหรับโปรดักชันเองก็ยังคงคุณภาพได้ไม่มีตก คุมโทนได้ทุกหมัด รักษามาตรฐานดีเช่นเคย ขนาดแอกติ้งของตัวละครประกอบที่โผล่มาเพียงเสี้ยววิก็ยังเล่นดีไม่มีแข็ง และที่โดดเด่นคือ ฉากบู๊ที่มาเต็ม กับจังหวะตัดภาพที่เรียกความขนลุกได้กำลังดี จะมีก็แต่ CG บางช็อตที่ดูหลอก ๆ ไปบ้าง แต่ก็ยังจัดว่ารับได้
แม้ว่าการเดินเรื่องยังเป็นสไตล์จีนค่อนข้างมาก คือเดินเรื่องรวดเร็วว่องไว หากไม่ใส่ใจจะหลุดรายละเอียด แต่เรื่องนี้กลับใช้หลัก “น้อยแต่มาก” แบบญี่ปุ่นได้อย่างกลมกลืน คือเลือกใช้องค์ประกอบสื่อความจำนวนไม่มากและบทพูดเพียงไม่กี่ประโยค ในจังหวะที่ใช่ จนสามารถฮุกเข้าไปในใจ สื่อเรื่องสำคัญให้ชวนซึ้งไปเต็ม ๆ (ยิ่งตอนจบเพลงประกอบขึ้น ใครอินจัดจะร้องไห้เหมียนหมาเลยขอบอก)
ด้วยเหตุนี้ สาวก #ปรมจ จึงไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง (ใครยังไม่ดูสุดสัปดาห์นี้รีบจัดไปโลด เดี๋ยวจะคุยกับสาวกท่านอื่นไม่รู้เรื่อง) แต่หากใครยังไม่หลุดมาเข้าในจักรวาลนี้ เราขอแนะนำให้ไปเข้าทางเข้าหลักคือซีรีส์ทั้ง 50 ตอนเสียก่อน ถึงจะอิน ฟิน และเข้าใจแจ่มแจ้ง แต่ขอเตือนไว้ก่อนเลยนะว่า จักรวาลนี้เข้าได้อย่างเดียวไม่มีทางออก ต้องมูฟออนเป็นวงกลมกันต่อไป
จุดเด่น
มิติของตัวละครชัดเจนกว่าภาคหลัก
การแสดงดีทั้งนักแสดงหลักและรอง
คุมโทนในรายละเอียดเสื้อผ้าและฉากดี
จุดสังเกต
ขาดความต่อเนื่องของฉาก CG ในบางจุด
เล่าเรื่องเร็ว ทำให้เข้าใจยากในบางจุด เหมาะสำหรับผู้ที่ดูภาคหลักมาก่อนมากกว่า
การให้แสงเงายังดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติในบางช่วง
เรื่องราวยุทธภพ 16 ปีก่อนที่ถูกแบ่งแยกเป็นห้าส่วนได้แก่ ตระกูลหลันแห่งกูซู ตระกูลเจียงแห่งยวิ๋นเมิ่ง ตระกูลเนี่ยแห่งชิงเหอ ตระกูลเวินแห่งฉีซาน และตระกูลจินแห่งหลันหลิง ห้าตระกูลควบคุมยุทธภพด้วยกัน และเมื่อตระกูลเวินอาละวาด ประชาชนเดือดร้อนหาความสงบสุขไม่ได้ เหล่าเซียนเทพจึงต้องออกมาผดุงคุณธรรม ปฏิบัติการรวมพลังต่อต้านตระกูลเวิน “เว่ยอู๋เซี่ยน” ผู้ที่ได้รับการขนานนามความสำเร็จในการล้มล้างตระกูลเวิน ถือเป็นการสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ แต่เพราะวิชาอันแกร่งกล้าของเขาต่างทำให้ผู้คนมากมายหวาดกลัวและขนานนามไปทั่ว เลยถูกยอดฝีมือจากทั่วทุกหนแห่งอยากจะทำลายล้าง หลังจากนั้น 16 ต่อปีมา เว่ยอู๋เซี่ยนจู่ๆก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง และได้กลับมาพบเจอกับหลานวั่งจีแห่งตระกูลกูซูหลาน และเจียงเฉิงแห่งตระกูลอวิ๋นเมิ่งเจียงรวมถึงคนเก่าๆอีกมากมาย ปริศนาในภพเก่ายังไม่หายไป ศึกในยุทธภพจะฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง
ปรมาจารย์ลัทธิมาร (จีน: 魔道祖师; พินอิน: Mó Dào Zǔ Shī; แปลตรงตัว: “ปรมาจารย์ลัทธิมาร”) เป็นนวนิยายจีนชื่อดังประพันธ์โดย โม่เซียงถงซิ่ว (Chinese: 墨香铜臭) ตีพิมพ์ครั้งแรกในประเทศจีนเมื่อ ค.ศ.2016 ได้รับความนิยมอย่างมากจนถูกนำไปดัดแปลงเป็นแอนิเมชันและละครโทรทัศน์ ออกอากาศทาง Tencent Video ในประเทศจีน พร้อมกับการออกอากาศทาง WeTV ในประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2562
ปรมาจารย์อี๋หลิง เว่ยอู๋เซี่ยน สิ้นชีพ ณ เนินป่าช้า ว่ากันว่ากายแหลกเหลว ไร้ร่างให้ดินกลบฝัง ทว่าด้วยพฤติกรรมเลวทรามต่ำช้าที่ระบือไกล ผู้คนจึงพากันยินดีที่เขามอดม้วย และไม่ว่าใครก็คงคาดไม่ถึงว่า เวลาผ่านไปสิบกว่าปี จะมีใครบางคนใช้อาคมต้องห้าม ยอมอุทิศร่างให้เขาฟื้นคืน! ด้วยมีศัตรูอยู่ทุกหัวระแหง เว่ยอู๋เซี่ยนจำต้องปิดบังตัวตนสุดชีวิต แม้จะทำได้ยากเย็นเต็มที เมื่อต้องเผชิญหน้ากับภูตผีปีศาจร้ายกาจ และตระกูลเซียนที่เคยล้อมปราบ รวมถึงคู่รักคู่แค้นอย่าง หลานวั่งจี